อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
สถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาแนะนำไปรู้จักในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย อุทยานประวัติศาสตร์ และอยู่ห่างจากกรุงเทพฯไม่ไกลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และชอบดูโบราณสถานต่างๆชื่นชอบเป็นอย่างมากโดยจังหวัดที่เราจะพาไปรู้จักกันนี้เป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั่นเองซึ่งที่นี่มีบริษัทมากมายเต็มไปหมดและมีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานอายุหลายร้อยปีที่สำคัญที่พระนครศรีอยุธยานี้เป็นสถานที่ที่มีอาหารอร่อยขึ้นชื่อมากๆเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังมีสถานที่บางแห่งถูกจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์ สำหรับที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสถานที่ที่ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้นก็คืออุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยานั่นเองโดยถูกจดทะเบียนไว้เมื่อปีค.ศ 1991 ที่นี่ถือเป็นสถานที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยอดีตในสมัยการปกครองของกรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์รวมของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก่อน
ก่อนที่กรุงเทพฯจะมาเป็นราชธานีนั้นพระนครศรีอยุธยาก็เคยเป็นราชธานีมาก่อนในสมัยกรุงศรีอยุธยานั่นเองซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเก่าอย่างกรุงศรีอยุธยาได้จากพิพิธภัณฑ์ที่แสดงหลักฐานประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือจะไปเยี่ยมชมซากโบราณให้เห็นกับตาด้วยตนเอง โดยที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้นมีทางพระราชวังโบราณเก่าแก่ซึ่งแม้ว่าจะมีซากปรักหักพังแต่ก็บางส่วนนั้นยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยอดีตรวมถึงมีวัดเก่าแก่โบราณมากมายหลายวัดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปศึกษาหาความรู้
สำหรับภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยานั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปด้านในนอกจากจะเห็นซากปรักหักพังของตัวโบราณต่างๆแล้วยังมีวัดพระมหาธาตุหรือแม้แต่วัดราชบูรณะรวมถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์ซึ่งเป็นวัดดังๆประจำจังหวัดอยุธยาให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไปศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แบบนี้นั้นมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวกันมากมายเต็มไปหมดซึ่งถ้าหากใครอยากอย่าว่าในสมัยอดีตประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรืองมากแค่ไหนก็สามารถไปเยี่ยมชมความเจริญรุ่งเรืองที่อดีตเคยมีมาและส่งต่อมาถึงปัจจุบันได้ที่อุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้นั่นเอง
ถ้าหากว่านักท่องเที่ยวเที่ยวเพลินเสร็จเรียบร้อยแล้วอย่าลืมแวะไปรับประทานอาหารในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งมีร้านอาหารหลายร้านที่แต่ละร้านนั้นขึ้นชื่อเรื่องของความอร่อยที่สำคัญพระนครศรีอยุธยายังมีขนมโรตีสายไหมเป็นขนมขึ้นชื่อของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย เมื่อไปเที่ยวแล้วก็อย่าลืมซื้อกลับมาเป็นของฝากให้กับเพื่อนๆหรือคนในครอบครัวได้
อย่างไรก็ตามจังหวัดอยุธยานั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มีดีแค่กรุงเก่าเท่านั้น หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวอย่าลืมแวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นอื่นในจังหวัดกันด้วยนะคะ
สนับสนุนเรื่องราวโดย. สมัคร บาคาร่า ufabet
พาชมความยิ่งใหญ่ของต้นจามจุรียักษ์ที่จังหวัดกาญจนบุรี
ถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ต้นจามจุรียักษ์ ชื่อว่าคงจะเคยได้ยินชื่อเสียงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจที่ไปเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีโดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายมักจะเดินทางมาเที่ยวที่นี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เรากำลังแนะนำอยู่ในตอนนี้ก็คือที่ตรงบริเวณ ต้นจามจุรียักษ์ ซึ่งแน่นอนว่าหากพูดถึงต้นจามจุรีหลายคนคงคิดว่าไม่มีอะไรที่น่าสนใจแต่ถ้าหากว่าคุณได้ไปเห็นด้วยตาตนเองแล้วคุณจะรู้สึกถึงความน่าอัศจรรย์กับต้นไม้ต้นใหญ่ยักษ์ซึ่งคุณอาจจะไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนด้วยต้นไม้ที่นี่นั้นเป็นต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่มานานมากกว่า 100 ปีแล้วนอกจากนี้ต้นไม้ต้นนี้ยังมีความใหญ่โตมโหฬารถึงขนาดที่ว่านำคน 10 คนมาวัดถึงจะสามารถอบรอบต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้ได้
ลักษณะของต้นจามจุรียักษ์แห่งนี้นั้นจะแผ่กิ่งก้านสาขาโดยสิ่งนั้นจะแผ่กระจายออกไปเป็นพื้นที่เป็นบริเวณวงกว้างมากซึ่งเราสามารถวัดรัศมีของกิ่งก้านสาขาของต้นจามจุรียักษ์นี้ได้ประมาณ 51.7 เมตรเลยทีเดียวในขณะที่แต่ละกลุ่มนั้นก็จะมีใบสีเขียวขึ้นมากมายเต็มไปหมดซึ่งสามารถบดบังแสงแดดได้อย่างดีลักษณะของต้นนั้นจะมีพุ่มขนาดใหญ่ซึ่งเฉลี่ยของพุ่มแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 25.8 7 เมตรที่สำคัญต้นไม้ที่เป็นต้นจามจุรียักษ์แห่งนี้นั้นยังมีความสูงถึง 20 เมตรเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่นั่นก็เพราะว่าในประเทศไทยนั้นแทบจะไม่มีต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากมายแบบนี้ดังนั้นต้นไม้ต้นนี้จึงนับได้ว่าเป็นต้นไม้หายากชนิดหนึ่งเพราะโดยเฉลี่ยจากการวัดจากกิ่งก้านสาขาที่แผ่กระจายออกไปรวมถึงร่มเงาของต้นจามจุรียักษ์แห่งนี้แล้วจะมีขนาดกว้างถึงประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 4 ว่ากันเลยทีเดียว
ภายใต้บริเวณต้นจามจุรียักษ์นั้นจะมีการสร้างโดยการนำไม้มาสร้างเป็นลักษณะของทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้ด้านล่างจะเป็นพื้นหญ้าซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะพากันมานั่งเล่นนำอาหารมานั่งรับประทานร่วมกันหรือมานั่งพักผ่อนหย่อนใจอ่านหนังสือเล่นที่นี่การนั่งเล่นภายใต้ต้นจามจุรียักษ์นั้นจะได้อากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น
นอกจากนี้พื้นที่บริเวณโดยรอบต้นจามจุรียักษ์นั้นยังมีการนำดอกไม้มาประดับตกแต่งเอาไว้และมีการนำร้านอาหารมาก่อสร้างไว้ใกล้ๆซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวได้มีการมานั่งเล่นแล้วอยากจะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มก็สามารถที่จะแวะไปทานอาหารใกล้ๆกับต้นจามจุรียักษ์ได้ดังนั้นที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเพราะนอกจากจะมีร้านอาหารแล้วยังมีร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
ได้รับการสนับสนุนโดย. gclub สล็อตฟรี
สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น ประเทศญี่ปุ่น
หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายและสถานที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่นก็มีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลยทีเดียว สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีสวนสาธารณะเยอะมากและสวนสาธารณะแต่ละที่นั้นก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปบางที่นั้นจะเน้นการสร้างวิวทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ร่มรื่นและร่มเย็น
นอกจากนี้ยังมีการเตรียมสถานที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวนะได้เพลิดเพลินจากการนั่งทานขนมจิบน้ำชาชมน้ำพุหรือบางสถานที่ที่เป็นสวนสาธารณะนั้นก็มีการจัดสวนโดยอย่างเช่นสวนสาธารณะอุเอโนะนั้นก็จะมีการปลูกต้นซากุระเพื่อที่เวลาดอกซากุระเบ่งบานจะทำให้ส่วนนั้นอุดมไปด้วยกลีบดอกซากุระที่เบ่งบานเต็มต้นกลายเป็นสวนสาธารณะสีชมพูในขณะเดียวกันยังมีสวนสาธารณะอื่นๆน่าสนใจยังสวนสาธารณะที่จะแนะนำให้รู้จักกันต่อไปนี้ก็คือสวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอ็น
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวภายในประเทศเอง สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น ก็ตามเนื่องจากว่าสวนสาธารณะแห่งนี้มีการออกแบบแบบผสมผสานกันจากหลายประเทศมีทั้งเป็นแบบอังกฤษและผสมแบบฝรั่งเศสและนำการจัดสวนแบบญี่ปุ่นมาผสมผสานด้วยทำให้สวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอนนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสวยงามและมีเสน่ห์ที่แตกต่างไม่เหมือนกับสวนสาธารณะที่ไหนเลยในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามสวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองญี่ปุ่น
ดังนั้นไม่ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเวลาไหนสามารถแวะไปเที่ยวสวนสาธารณะแห่งนี้ได้ซึ่งในแต่ละฤดูนั้นคุณก็จะเห็นสีสันของต้นไม้ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรียกได้ว่าไปสามฤดูคุณก็จะเห็นความแตกต่างของสวนสาธารณะแห่งนี้แบบ 3 แบบเลยทีเดียวโดยที่นี่มีการปลูกต้นซากุระเอาไว้ด้วยยิ่งเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิตนักท่องเที่ยวจับเบิกบานกับความสวยงามของดอกซากุระที่มีการปลูกเอาไว้ถึง 1,500 ต้นในขณะที่ถ้าไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณก็จะเห็นว่าสวนสาธารณะแห่งนี้นั้นจะมีสีสันที่งดงามเป็นอย่างมาก
เนื่องจากใบไม้จะมีหลากสีไม่ว่าจะเป็นสีแดงหรือสีส้มสีเหลืองและสีเขียวละลานตาเต็มไปหมดในขณะที่ถ้านักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวสวนสาธารณะแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวคุณก็จะเจอดอกไม้ในช่วงฤดูหนาวนอกจากนี้ยังมีการปลูกดอกไม้ที่เป็นดอกไม้ฤดูหนาวไว้ในเรือนกระจกเช่นดอกกล้วยไม้หรือดอกเบญจมาศเรียกได้ว่าไม่ว่าจะไปสวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอนในช่วงฤดูไหนคุณก็จะเพลิดเพลินกับการไปเที่ยวที่สวนสาธารณะแห่งนี้แบบไม่มีเบื่อเลยทีเดียว
สนับสนุนโดย. ทางเข้า ufabet ภาษาไทย
อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักกันในวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 3 รับด้วยกันอันได้แก่รัฐ Idol Hall และรัฐมอนเดน่า รวมถึงรัฐไวโอมิง ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 200 เอเคอร์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราเดินทางมาเที่ยวภายในวันเดียวอาจจะไม่ครอบคลุมแต่หลักๆแล้วสถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน แห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาเพื่อชมน้ำพุร้อนโอลด์ เฟธฟูล
สำหรับความน่าอัศจรรย์ใจของน้ำพุร้อนแห่งนี้นั่นก็คือความสูงของน้ำพุที่มันพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และด้วยความที่น้ำพุร้อนแห่งนี้พุ่งสูงขึ้นมากๆทางด้านนักวิทยาศาสตร์จึงเคยมาทำการสำรวจน้ำพุร้อนแห่งนี้และมีการจับระยะเวลาในการพูดของน้ำพุจะเห็นได้ว่าน้ำพุนั้นจะมีการพุ่งสูงสูงที่สุดในช่วงนาทีที่ 33 และนาทีที่ 93
นอกจากนี้น้ำในน้ำพุนั้นก็มีสีสันที่สวยงามเพราะน้ำในน้ำพุจะเป็นสีฟ้าใสในขณะที่บริเวณโดยรอบของตัวขอบของตัวบ่อน้ำนั้น อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน จะเป็นสีแดงและสีส้มตามลำดับซึ่งเวลาที่เราเห็นภาพใดๆจะเห็นเป็นจุดสีฟ้าตรงกลางขนาดใหญ่และรัศมีโดยรอบจะเป็นสีส้มและสีแดงนั่นเองเวลาถ่ายรูปใกล้ๆจะให้ภาพที่สวยงามมากเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามน้ำพุแห่งนี้ไม่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปเล่นเพียงแค่ให้ชื่นชมถึงความสวยงามและความเปลี่ยนแปลงของน้ำพุแห่งนี้เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามสถานที่ที่มี น้ำพุร้อนโอลด์ เฟธฟูล แห่งนี้นั้นก็คืออุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนนั่นเองโดยในอุทยานแห่งชาตินี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกาและยังถูกทะเบียนขึ้นเป็นมรดกของโลกอีกด้วยซึ่งมีการบันทึกเป็นมรดกโลกเมื่อปีพศ 2521 และที่นี่ยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลกเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ดังนั้นนอกจากเราจะเห็นน้ำพุร้อนโอลด์ เฟธฟูล แล้ว ที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิดโดยเฉพาะสัตว์ป่าหายากซึ่งไม่สามารถประมาณการได้ว่ามีสัตว์ป่ากี่สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนแห่งนี้และที่สำคัญภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนแห่งนี้บอกได้เลยว่าจะมีน้ำตกมากมายหลายแห่ง
ซึ่งนับโดยรวมแล้วมีเกินกว่า 300 แห่งเลยทีเดียวที่นักท่องเที่ยวนั้นสามารถที่จะไปทำการปิกนิกกางเต็นท์นอนและนั่งรับประทานอาหารชิวๆท่ามกลางน้ำตกที่มีความสวยงามและพื้นที่บริเวณโดยรอบของอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้โดยเฉพาะที่นี่มีเทือกเขาร็อกกี้ซึ่งปกคลุมทั้งอาณาจักรของทั้ง 3 รัฐด้วยเช่นเดียวกัน
ได้รับการสนับสนุนโดย สมัคร sbobet โดยตรง
พาเที่ยวทะเลสาบ Minnewater
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะให้รู้จักกันในครั้งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ เบลเยียม โดยที่นี่นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวกับคนรักก็ได้หรือจะพาครอบครัวมาเที่ยวก็ได้ โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นจะอยู่ในเมือง บรุจส์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศเบลเยี่ยม พาเที่ยวทะเลสาบ Minnewater และเป็นสถานที่ที่ได้รับการกล่าวขานจากบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวที่เมืองแห่งนี้ว่าที่นี่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีความโรแมนติกมากๆโดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปเยี่ยมชมกันในครั้งนี้นั่นก็คือทะเลสาบ Minnewater หรือทางเมืองมักจะมีการเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่าทะเลสาบแห่งรักนั่นเอง
พาเที่ยวทะเลสาบ Minnewater สำหรับที่เมืองบรุจส์ นั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวแต่ก็ค่อนข้างเงียบสงบและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติซึ่งจะแตกต่างจากเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมโดยที่นี่นั้นส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะอาศัยอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำโดยจะมีการสร้างหรือบ้านเรือนเอาไว้และที่สำคัญรูปแบบของการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนนั้นจะมีการสร้างบ้านเหมือนกับคล้ายกับหอคอย
นอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นไม้สวยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งนิยมปลูกกันมากก็คือต้นวิลโลว์ ซึ่งเวลาที่อากาศเย็นๆมีลมพัดเอ่ยมาใบของต้นวิลโลว์จะพริ้วไหวไปตามสายลมทำให้เป็นภาพที่สวยงามและเกิดเป็นภาพประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวมากเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่นั้นมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากสถานที่ภายในเมืองแห่งนี้นั้นก็ร่มรื่นและเงียบสงบดังนั้นจึงเหมาะกับการมาเที่ยวแบบสบายๆชิวๆ
อาจกล่าวได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นเมืองที่ออกมานอกตัวเมืองแล้วจึงค่อนข้างที่จะเงียบสงบหรืออาจจะกล่าวได้ว่ามันคือเมืองชนบทแต่บอกได้เลยว่าถึงแม้จะเป็นเมืองชนบทนั้นแต่ก็บรรยากาศดีมากๆและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากตัวบ้านอาคารที่ประชาชนสร้างเพื่ออยู่อาศัยนั้นจะมีการทาสีให้เกิดสีสันสวยงาม
ซึ่งเมื่อตัดกับสีของต้นไม้แล้วจะเป็นเหมือนกับภาพวาดเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามที่เมือง บรุจส์ แห่งนี้นั้น จะมีกิจกรรมหลากหลายเอาไว้ให้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าคุณเดินทางมาเที่ยวที่เมืองนี้ในหน้าหนาวตรงบริเวณทะเลสาบแห่งรักนี้จะปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำทะเลสาบนั้นจะกลายเป็นน้ำแข็งซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาเล่นสเก็ตได้ด้วย
ในขณะที่ถ้าเกิดว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเมืองแห่งนี้ในช่วงเวลาหน้าร้อนบริเวณใกล้ๆกับทะเลสาบก็จะมีการจัดกิจกรรมเป็นคอนเสิร์ตเพื่อให้ความสำราญกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ในช่วงฤดูไหนคุณก็จะสนุกสนานเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ชาวเมืองเตรียมไว้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
สนับสนุนโดย. ufabetฝ่ายบริการ
เที่ยว Anne Frank House
เชื่อว่าถ้าหากพูดถึง Anne Frank House หลายคนคงอาจจะไม่เคยรู้จักว่ามันคือสถานที่ที่ไหนแต่สำหรับคนในประเทศเนเธอร์แลนด์แล้วAnne Frank House เป็นสถานที่ที่พวกเขานั้นสามารถระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งสำคัญในช่วงสงครามโลกและสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ที่พวกเขานั้นภาคภูมิใจเกี่ยวกับเกียรติยศของความเป็นมนุษย์เพราะมันแสดงออกถึงการต่อสู้ของคนคนหนึ่ง
โดย Anne Frank House คือพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสอีกโลกใบหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าชีวิตของคนทุกคนนั้นมีความเท่าเทียมกันซึ่งภายในจะมีการบอกเล่าประวัติเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่เขาได้ต่อสู้ดิ้นรนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสถานที่แห่งนี้นั้นไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศเนเธอร์แลนด์เองหรือนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
สำหรับ Anne Frank House นั้น คือบ้านที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณริมคลองซึ่งถ้าเรามองเข้าไปแล้วก็เหมือนกับบ้านของประชาชนธรรมดาทั่วไปเพียงเท่านั้นแต่บ้านหลังนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานโดยบ้านหลังนี้ได้มีการนำเรื่องราวของคนในครอบครัวนี้มาจัดแสดงให้กับประชาชนได้เห็นถึงความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Anne Frank อดีตเธอเคยอยู่ในบ้านหลังนี้และเธอใช้ที่นี่ในการหลบซ่อนตัวเองจากการถูกตามล่าตัวของกลุ่มนาซี
ซึ่งเธอต้องอดทนอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้มาเป็นระยะเวลาอย่างยาวนานถึง 2 ปีเลยทีเดียวและแน่นอนว่าในช่วงที่เธอต้องอาศัยอยู่แต่ในบ้านหลังนี้เธอก็ได้มีการเขียนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของเธอเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของเธอที่ต้องเจอกับเรื่องน่ากลัวลงในไดอารี่ส่วนตัวของเธอเองและแน่นอนว่าถึงแม้จะหลบหนีหลบซ่อนนานถึง 2 ปีแต่ท้ายที่สุดแล้วพวกชาวนาซีก็สามารถกับตัวเธอและครอบครัวของเธอได้
ซึ่งเธอยังได้เขียนในไดอารี่อีกด้วยว่าเธอและครอบครัวของเธอนั้นโดนส่งตัวไปยังสถานกักกันหลังจากนั้นพวกเธอก็ใช้ชีวิตอย่างทรมานและโหดร้ายอยู่ในสถานการณ์แห่งนั้นและพวกเธอก็ต้องตายลงก่อนที่สงครามจะสิ้นสุดเพราะพวกเธอนั้นต้องเสียชีวิตด้วยการเป็นโรคไข้ไทฟัส ซึ่งเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นในค่ายกักกันของกลุ่มนาซีนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในช่วงชีวิตของAnne Frank เธออาจจะเป็นแค่ประชาชนคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายจากกลุ่มนาซีแต่หลังจากสงครามสิ้นสุดลงประวัติของเธอและไดอารี่ของเธอที่มีการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่ยากลำบากของเธอและในครอบครัวก็กลายมาเป็นเรื่องเล่าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวเมือง และ Anne Frank ก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้การใช้ชีวิตถึงแม้ว่าสงครามโลกจะสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปีค.ศ 1947 แต่ประวัติของAnne Frank ยังคงทำให้ชาวเมืองต่างก็พากันจดจำ
ซึ่งต่อมานั้นก็ได้มีการนำบ้านที่เธอนั้นมาหลบซ่อนนาซีเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์และนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของช่วงชีวิตที่เธอนั้นต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาจัดแสดงให้กับบรรดานักท่องเที่ยวได้มาศึกษาข้อมูลกัน
ขอขอบคุณ ติดต่อ ufabet ที่ให้การสนับสนุน
CN Tower ประเทศแคนาดา
ถ้าพูดถึงประเทศแคนาดาหลายคนคงนึกถึงสัญลักษณ์ของประเทศแคนาดานั้นก็คือน้ำตกไนแองการาเพราะว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังระดับโลกแล้วแต่จริงๆแล้วในแคนาดานั้นมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายเลยทีเดียวซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหรืออีกหนึ่งจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวซึ่งที่นี่นั้นมีความสวยงามและมีจุดให้นักท่องเที่ยวนั้นได้ถ่ายรูปมากมายเช่นเดียวกัน
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เรากำลังจะพูดถึงกันในตอนนี้นั่นก็คือหอคอยแห่งชาติของประเทศแคนาดาหรือ CN Tower นั่นเองที่นี่นั้นเป็นหอคอยสำหรับกระจายเสียงประจำเมืองโตรอนโตเลยทีเดียวซึ่งที่นี่ ความสูงถึง 1815 ฟุต และที่ซีเอ็นทาวเวอร์แห่งนี้นั้นก็มีการสร้างมาแล้วนานหลายปีเลยทีเดียวซึ่งเริ่มมีการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงประมาณปีค.ศ 1973 และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนาน 1 ปีจึงแล้วเสร็จหลังจากนั้นก็มีการเปิดให้ใช้บริการซีเอ็นทาวเวอร์แห่งนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีค.ศ 1974 นั่นเอง
อย่างไรก็ตามสำหรับประชาชนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวนั้นสามารถเข้าไปชมความอัศจรรย์และความสวยงามหรือความสูงของตึก CN Tower แห่งนี้ได้ซึ่งแน่นอนว่ามีการเปิดให้เข้าไปใช้บริการได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 เดือนมิถุนายนปีค.ศ 1976 แล้วซึ่งด้านบนสุดของตึกซีเอ็นทาวเวอร์นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นสถานที่ที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหราเป็นอย่างมากโดยจะมีร้านอาหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยว
หากใครอยากจะขึ้นไปด้านบนสูงสุดของตึก CN Tower เพื่อไปดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองโตรอนโตแล้วล่ะก็รับรองว่าคุณจะเพลิดเพลินกับวิวสูงๆที่มองลงมาด้านล่างเห็นวิวทิวทัศน์ของสวนสาธารณะประจำเมืองโตรอนโตได้เลยทีเดียวแน่นอนว่าถ้าหากคุณยิ่งไปในช่วงที่มีใบไม้เปลี่ยนสีหรือช่วงที่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วเราก็ควรจะเห็นภาพสีสันของต้นไม้หลากหลายสีสันสลับกันไปมาสวยงามและคุ้มค่าแน่นอนและอาหารของที่นี่นั้นเป็นอาหารระดับ VIP world-class ดังนั้นรับรองว่าอาหารนั้นถูกปากของนักท่องเที่ยวที่เน้นการชิมอาหารอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
นอกจากจะขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนตึกของยอดตึกของ CN Tower แล้วบริเวณทางด้านล่างของตึกซีเอ็นทาวเวอร์เองก็มีการตกแต่งเป็นสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆซึ่งเมื่อคุณทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วอยากจะย่อยอาหารเดินเล่นพักผ่อนก็เดินที่สวนสาธารณะด้านล่างของตึก CN Tower ได้เช่นเดียวกันซึ่งที่นี่คุณจะได้รับอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นและเย็นสบายเรียกได้ว่าเมืองโตรอนโตนั้นเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งหรือแม้แต่การชมวิวสวยๆที่เมืองโตรอนโตนั้นมีรองรับบริการนักท่องเที่ยวทั้งหมด
ได้รับการสนับสนุนโดย Ufabet เข้าสู่ระบบ
Antelope Canyon รัฐ อาริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่รัฐแอริโซนาประเทศสหรัฐอเมริกามีเมืองหนึ่งที่ชื่อว่าเมืองเพจมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเมืองนี้เลยก็ได้โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เพราะเนื่องจากว่าที่นี่นั้นมีลักษณะของภูมิประเทศที่ไม่เหมือนกับที่ไหนมาก่อนมีความสวยงามและมีความแปลกตาทำให้นักท่องเที่ยวนั้นอยากมาชมเกี่ยวกับความอัศจรรย์ใจที่เกิดขึ้นโดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าหุบเขาแอนทีโลพ หรือ Antelope Canyon
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะตามชื่อที่เรียกง่ายๆก็คือที่นี่เป็นหุบเขามีชั้นหินเกิดขึ้นที่มีความแตกต่างโดยใช้หินนี้มีลักษณะของการถูกกัดเซาะและการพังทลายของชั้นหินโดยหุบเขาแห่งนี้ว่ากันว่ามีอายุเก่าแก่มานับหลายร้อยหลายพันปีแล้วซึ่งฉันเห็นของที่นี่นั่นก็คือ navajo Sanstone เป็นชั้นหินที่มีความแปลกตาและสวยงามมากซึ่งเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
ว่ากันว่าที่ Antelope Canyon แห่งนี้นั้นได้มีการผ่านทางพายุฝนและฐานทั้งกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดรวมถึงผ่านกระแสลมกัดเซาะมาอย่างยาวนานหลายร้อยหลายพันปีทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าหินแต่ละก้อนนั้นได้ถูกกัดกร่อนออกไปมีรูปร่างลักษณะที่มีความแปลกตาและแลดูสวยงามอย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่Antelope Canyon แห่งนี้ ต่างก็มองว่าที่นี่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ที่อันตรายมากที่สุดเช่นเดียวกัน
โดยที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็นหุบเขาที่อันตรายมากที่สุด ถึงแม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวในแต่ละปีนั้นค่อนข้างเยอะมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวที่เป็นพวกช่างภาพสามารถมาถ่ายรูปที่นี่แล้วนำไปเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็กลายเป็นว่าที่นี่นั้นได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางมาเที่ยวที่นี่นั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะที่นี่อาจจะเกิดน้ำท่วมขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนหรือเรียกว่าเฉียบพลันเลยก็ได้โดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและถ้าหากเกิดน้ำท่วมแล้วเราก็ความสูงของระดับน้ำนั้นก็สูงมากมายถึงขนาด 10 เมตรเลยทีเดียวซึ่งแน่นอนว่านี่คือภัยธรรมชาติอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่ใช่ช่วงจังหวะที่เป็นน้ำท่วมแล้วเราก็ควรจะสามารถเห็นช่องในบริเวณAntelope Canyon แห่งนี้มีสีสันที่สวยงามซึ่งเป็นสีจากธรรมชาติที่เกิดจากพระอาทิตย์ส่องมากระทบกับโขดหินและสะท้อนกับชั้นหินทำให้เกิดแสงสีที่มีความสวยงามแปลกตาและทำให้เกิดเป็นภาพประทับใจที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ไม่สามารถที่จะลืมเลือนความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้เลย
สนับสนุนเรื่องราวโดย เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น
Fountain of wealth ประเทศสิงคโปร์
Fountain of wealth คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศสิงคโปร์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่นี่คือสถานที่ของที่อยู่ของน้ำพุร้อนแห่งโชคลาภซึ่งหลายคนนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการจะไปขอพรและไปทำการเสี่ยงดวงที่น้ำพุแห่งนี้โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไปเพื่อทำการขอพรที่น้ำพุแห่งนี้เพื่อให้ตัวเองนั้นประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความรักหน้าที่การงานให้ทุกอย่างในชีวิตนั้นเกิดความมั่นคง
สำหรับ Fountain of wealth นี้นั้นจะอยู่ในอาคาร suntec City โดยเจ้าของอาคารที่มีการก่อสร้าง suntec City นั้นได้มีการดูฮวงจุ้ยเอาไว้ทุกอย่างเป็นฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ซึ่งคณะท่องเที่ยวเข้าไปเห็นตัวอาคารซันเทคซิตี้แล้วจะเห็นได้ว่าตัวอาคารนี้จะมีการสร้างน้ำพุแห่งโชคลาภนี้เอาไว้กลางอาคารเลยทีเดียวเรียกได้ว่าดูฮวงจุ้ยมาแล้วเป็นอย่างดีโดยจะให้น้ำพุแห่งนี้นั้นคือศูนย์รวมพลังงานด้านบวกด้านที่ดีที่สุดให้กับตัวอาคารแห่งนี้เลยก็ว่าได้และแน่นอนว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเกิดความศรัทธาในน้ำพุฮวงจุ้ยน้ำพุเสริมโชคลาภและความมั่นคงนี้ความศรัทธานี้ก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมาได้พลังด้านบวกมาจากฮวงจุ้ยน้ำพุแห่งนี้นั่นเอง
สำหรับ Fountain of wealth เคยมีกินเนสบุ๊คได้มาทำการลงบันทึกเอาไว้ว่าที่นี่คือสถานที่ที่มีน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพราะน้ำพุของที่นี่นั้นมีความสูงถึง 13.8 เมตรโดยมีการบันทึกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณปี ค.ศ 1998 กันเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณจะเห็นได้ว่าลักษณะของตัวน้ำพุนั้นจะมีการสร้างอยู่ใต้ลวดทองแดงขนาดใหญ่โดยลวดทองแดงนี้จะถูกสร้างเอาไว้เป็นวงกลมขนาดใหญ่และพื้นที่โดยรอบของน้ำพุแห่งโชคลาภนี้จะมีอาคารของ suntec ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 อาคารด้วยกันถูกล้อมรอบตัวน้ำพุเอาไว้
อย่างไรก็ตามเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงแล้วเราก็คุณสามารถที่จะตั้งจิตอธิษฐานขอในสิ่งที่คุณคาดหวังอยากจะได้โดยระหว่างที่มีการตั้งจิตอธิษฐานนั้นมือของนักท่องเที่ยวก็จะต้องยื่นไปสัมผัสกับน้ำของน้ำพุแห่งนี้ด้วยหลังจากนั้นก็ให้เดินวนทั้งหมด 3 รอบซึ่งจะมีลูกศรบอกว่าให้วนไปในทิศทางไหนและถ้าหากใครอยากได้น้ำจากน้ำพุแห่งนี้กลับไปเป็นของฝากใกล้กับน้ำพุนั้นจะมีจุดขายน้ำจากน้ำพุแห่งนี้ให้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากที่คุณจะมาขอโชคลาภจาก Fountain of wealth แล้วนักท่องเที่ยวยังมาชมความสวยงามของน้ำพุแห่งนี้ซึ่งจะมีการเปิดขึ้นตามจังหวะของเสียงเพลงและยังมีการยิงแสงเลเซอร์ให้มีสีสันสวยงามอีกด้วยในช่วงเวลากลางคืน
ได้รับการสนับสนุนโดย บาคาร่า sa gaming
Blue Mosque สุเหร่าสีน้ำเงิน ประเทศตุรกี
สิงหาคม 23, 2021
ท่องเที่ยว
ปิดความเห็น บน Blue Mosque สุเหร่าสีน้ำเงิน ประเทศตุรกี
adminone
สุเหร่าสีน้ำเงิน ถ้าหากใครที่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศตุรกีและไปเมืองอิสตันบูลสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ที่นักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปเยี่ยมชมความงดงามนั่นก็คือ Blue Mosque หรือที่คนไทยเรียกกันว่าสุเหร่าสีน้ำเงินนั่นเอง ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็คอินอย่างหนึ่งของประเทศตุรกีเลยก็ว่าได้หากนักท่องเที่ยวคนไหนเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศตุรกีแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปสวยๆกับสุเหร่าสีน้ำเงินเชื่อว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์และอาจจะทำให้คุณนั้นไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าคุณมาเที่ยวที่ประเทศตุรกีแล้วนั่นเอง
สำหรับ Blue Mosque นั้นผู้ที่สร้างขึ้นมาก็คือสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 โดยการก่อสร้างขึ้นมานั้นพระองค์ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่พระองค์อยากจะสร้างสถานที่แห่งหนึ่งให้มีความสวยและยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าวิหารเซนต์โซเฟียดังนั้นด้วยความต้องการอยากจะเอาชนะวิหารเซนต์โซเฟียจึงได้ตัดสินใจสร้างสุเหร่านี้ขึ้นมาโดยมีการสร้างขึ้นในช่วงประมาณปีพศ 1609 ถึง 1616 นั่นเอง
ความงดงามของ Blue Mosque มาจากกระเบื้องที่มีการสร้างสุเหร่าสีน้ำเงินแห่งนี้โดยถ้าเกิดว่านักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวในสุเหร่าสีน้ำเงินแห่งนี้ให้สังเกตที่กระเบื้องที่มีการตกแต่งไว้ภายในจะเห็นได้ว่าตัวกระเบื้องนั้นเป็นสีฟ้าโดยทำมาจาก อิซนิค และตัวกระเบื้องนั้นยังมีการวาดลวดลายเอาไว้อย่างสวยงามซึ่งลวดลายที่อยู่ในตัวกระเบื้องนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นรูปลายของดอกไม้โดยแต่ละแผ่นของกระเบื้องจะมีดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไปบางแผ่นนั้นจะเป็นดอกคาร์เนชั่นในขณะที่กระเบื้องบางแผ่นจะเป็นดอกกุหลาบหรือกระเบื้องบางแผ่นก็จะเป็นดอกทิวลิปนั่นเอง
สำหรับ Blue Mosque ในตอนแรกนั้นองค์สุลต่านต้องการที่จะสร้างเป็นแบบทองคำทั้งหมด สุเหร่าสีน้ำเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอสวดมนต์แต่เนื่องจากว่าการสร้างหอสวดมนต์เป็นทองคำนั้นจะต้องใช้ทองคำเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดและแน่นอนว่าการที่จะสร้างด้วยทองคำนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายมหาศาลดังนั้นจึงได้มีการสร้างเป็นหอสวดมนต์และสร้างไว้ทั้งหมด 6 หอด้วยกัน
แต่หลังจากที่สร้างหอสวดมนต์ครบ 6 หอแล้วปรากฏว่าไม่เป็นมงคลจึงได้สร้างหอสวดมนต์เพิ่มอีก 1 หอกลายเป็นหอสวดมนต์มีทั้งหมด 7 ห้องสำหรับที่Blue Mosque ห้องสำหรับที่แห่ง อย่างไรก็ตามเมื่อนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินทางมาเที่ยว Blue Mosque คุณสามารถแวะไปชมความงามของสุเหร่าเซนต์โซเฟียได้เพราะทั้งสองสถานที่นั้นอยู่ไม่ไกลกันมากนักและการสร้างสุเหร่าทั้งสองสถานที่นั้นก็มีการหันหน้าเข้าหากันเรียกได้ว่าเป็นการประชันความงามกันของสุเหร่าทั้งสองสุเหร่านั่นเอง
สนับสนุนโดย. สมัคร sbobet โดยตรง
สมัคร sbobet โดยตรงสุเหร่าสีน้ำเงิน